ช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายนของทุกปี ถือเป็นช่วงเวลา
ของการยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
สำหรับปีภาษี 2557 ก็เช่นกัน
ผู้มีรายได้ทุกคนมีหน้าที่ต้องยื่นแบบภาษีเงินได้
ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2558 (กรณียื่นแบบกระดาษ)
และภายในวันที่ 8 เมษายน 2558 (กรณียื่นแบบผ่านอินเทอร์เน็ต)
ทั้งนี้ทุกท่านเคยสงสัยไหมว่า หลังจากยื่นภาษีแล้วทำไมบางคนถึงได้เงินภาษีคืนจากกรมสรรพากรแต่บางคนกลับต้องจ่ายภาษีเพิ่ม นั่นเป็นเพราะว่า แต่ละคนมีเงินได้พึงประเมินและการวางแผนภาษีที่แตกต่างกัน
ซึ่งอัตราภาษีของแต่ละคนนั้นสามารถคำนวณง่ายๆ ได้จากสมการดังนี้
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา = [ ( (เงินได้พึงประเมิน - ค่าใช้จ่าย) - ค่าลดหย่อน) - เงินบริจาค] x อัตราภาษีเงินได้
จะเห็นได้ว่านอกจากค่าใช้จ่ายที่เราสามารถ หักจากเงินได้สูงสุดแค่ 60,000 บาทนั้น
ค่าลดหย่อนถือเป็น รายการสำคัญที่เป็นตัวช่วยลดภาระภาษีให้กับมนุษย์เงินเดือน หรือแม้แต่ผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระก็ตาม ซึ่งบทความตอนนี้ขอนำเสนอ ค่าลดหย่อนอีกรายการหนึ่งที่เพิ่งจะมีผลไปเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2557 นั่นก็คือ “ค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวในประเทศ” ซึ่งมีประเด็นสำคัญที่ทุกคนควรทราบก่อนที่จะนำไปลดหย่อนภาษี ดังนี้
1. ค่าใช้จ่ายที่จะนำมาลดหย่อนภาษีนั้น ต้องเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการท่องเที่ยวภายในประเทศไทยเท่านั้น
2. บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวมาหักเป็นค่าลดหย่อนภาษีได้เท่าที่จ่ายจริงแต่ต้องไม่เกิน คนละ 15,000 บาท ทั้งนี้ในกรณีคู่สมรส หากสามีหรือภริยามีเงินได้เพียงฝ่ายเดียวให้ใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษี เฉพาะสามีหรือภริยาซึ่งเป็นผู้มีเงินได้ แต่หากสามีภริยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ และในใบเสร็จรับเงิน หรือใบกำกับภาษีระบุผู้จ่ายเงินเป็นทั้งสามีและภริยา ให้ต่างฝ่ายต่างหักลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง ไม่เกินคนละ 15,000 บาท
3. ค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวที่นำมาเป็นค่าลดหย่อนทางภาษีได้นั้น
แบ่งเป็น 2 ประเภท
3.1 ค่าบริการนำเที่ยวหรือค่าใช้จ่ายให้มัคคุเทศก์ จะต้องเป็นค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการ ธุรกิจนำเที่ยว หรือบริษัททัวร์ ที่จดทะเบียนกับสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กรมการท่องเที่ยว โดยสามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ได้ที่ Web Site กรมสรรพากร ทั้งนี้ค่าบริการแบบแพ็กเกจทัวร์ที่รวมค่าเดินทาง ค่าอาหาร และค่าเยี่ยมชมสถานที่ จะสามารถนำมาลดหย่อนภาษี ได้เต็มจำนวน ยกเว้นค่าเดินทาง ค่าอาหารที่อยู่นอกเหนือแพ็กเกจทัวร์ที่ซื้อจะไม่ถือเป็นค่าลดหย่อนภาษี
3.2 ค่าโรงแรมที่พัก จะต้องเป็นค่าที่พักกับโรงแรมที่จดทะเบียนถูกต้องตามพระราชบัญญัติ โรงแรม ซึ่งกรมสรรพากรได้จัดทำรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ประกาศไว้ใน Web Site กรมสรรพากร ดังนั้นที่พักที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อดังกล่าว เช่น บ้านพักต่างๆ หรือโฮมสเตย์ จะไม่สามารถนำมาหัก เป็นค่าลดหย่อนได้
4. ค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวภายในประเทศสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ 2 ปี โดยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ระหว่างวันที่ 16-31 ธันวาคม 2557 สามารถใช้ลดหย่อนสำหรับการคำนวณปีภาษี 2557 แต่หากเป็นค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2558 จะต้องนำไปใช้ลดหย่อน สำหรับการคำนวณปีภาษี 2558
5. หลักฐานสำคัญที่ต้องใช้ในการลดหย่อนภาษี คือใบเสร็จรับเงิน หรือใบกำกับภาษี จากผู้ประกอบการนำเที่ยว โรงแรมที่พัก เพื่อให้สามารถยืนยันได้ว่าค่าใช้จ่ายนั้นเป็นของท่านจริง ในใบเสร็จ/ใบกำกับภาษีก็จะต้องระบุข้อมูลให้ตรงกับฐานข้อมูลการเสียภาษี ซึ่งจะประกอบด้วย
• ชื่อ - นามสกุล ตามข้อมูลทะเบียนบ้าน
• เลขประจำตัวประชาชนของผู้เสียภาษี
• ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น สมมติว่าเราจ่ายเงินค่าท่องเที่ยวไปจำนวน 15,000 บาท เท่ากับว่าเราจะสามารถลดหย่อนภาษีตามอัตราภาษีที่เราต้องเสียได้ ตั้งแต่ 750 บาท (สำหรับฐานภาษีต่ำสุด 5%) ไปจนถึง 5,250 บาท (สำหรับฐานภาษีสูงสุด 35%) เลยทีเดียว ถือว่านอกจากจะได้ท่องเที่ยวได้ช่วยเศรษฐกิจประเทศ แล้วยังได้ลดหย่อนภาษี ดังนั้นไปเที่ยวเมื่อใดก็อย่าลืมเก็บใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีด้วยนะครับ
ที่มา : moneychannel.co.th